วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความจริงของการแปลพระคัมภีร์ไทย


เขียนโดย อจ.ประณต บุษกรเรืองรัตน์
มีคริสตชนหลายท่านได้สนใจไต่ถามว่าสมาคมพระคริสตธรรมไทยมีหลักการและขั้นตอนในการแปลพระคัมภีร์อย่างไร สมาคมฯ จึงขอใช้อธิบายหลักการที่สำคัญๆ ของการแปลพระคัมภีร์ไทยฉบับมาตรฐานของสมาคมพระคริสตธรรมไทย สรุปได้ดังนี้...
1. แปลจากสำเนาต้นฉบับภาษาฮีบรูและกรีกโดยผู้เชี่ยวชาญ พระคริสตธรรมคัมภีร์ภาษาไทยของสมาคมพระคริสตธรรมไทยเป็นฉบับมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับของคริสตจักรไทยและคริสตชนไทยมาช้านาน (ตั้งแต่ฉบับ ค.ศ. 1940) แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดกันว่าพระคัมภีร์ไทยของสมาคมฯ แปลมาจากฉบับภาษาอังกฤษ ในความเป็นจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อพระคัมภีร์ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยนั้น คณะผู้แปลซึ่งประกอบด้วยมิชชันนารีชาวต่างชาติและผู้ทรงคุณวุฒิคนไทยได้ยึดสำเนาพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูในการแปลพันธสัญญาเดิม และสำเนาภาษากรีกในการแปลพันธสัญญาใหม่เป็นหลัก โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทยได้เชิญผู้แปลที่มีความรู้ภาษาฮีบรูและกรีกเป็นอย่างดี เป็นนักวิชาการพระคัมภีร์ที่มีชื่อเสียง และหากเป็นชาวต่างชาติก็ต้องมีความรู้ภาษาไทยเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น กรรมการยกร่างคำแปลฯ ของฉบับ 1971 ประกอบด้วย ศาสนาจารย์ศรัณย์ ชัยรัตน์ อดีตคณบดีคณะศาสนศาสตร์แมคกิลวารี มหาวิทยาลัยพายัพ พร้อมทั้งผู้ร่วมงานของท่านคือ ดร.เฮอร์เบิร์ต เกรเธอร์ และ ศาสนาจารย์ฟรานซิส ซีลี ทั้งหมดเป็นนักภาษาฮีบรูและกรีกที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย จวบจนกระทั่งปัจจุบัน สมาคมพระคริสตธรรมไทยกำลังทำการแก้ไขคำแปลพระคัมภีร์ฉบับ 1971 ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าคณะผู้แปลในปัจจุบันก็เป็นนักภาษาฮีบรูและกรีกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเช่นเดียวกัน หลายท่านเป็นอาจารย์สถาบันพระคริสตธรรม บางท่านมีผลงานการแปลตำรา เขียนตำราที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการวิชาการคริสเตียน ซึ่งสามารถเปิดเผยนามของท่านเหล่านี้ได้ สมาคมฯ ภาคภูมิใจที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานภาระใจให้นักวิชาการเหล่านี้มาร่วมกันทำให้พระวจนะของพระองค์ได้รับการแปลอย่างถูกต้องและเป็นที่เข้าใจของผู้อ่านมากยิ่งขึ้น
คณะผู้แปลพระคัมภีร์ของสมาคมฯ ในปัจจุบัน
o ศาสนาจารย์ ดร.เสรี หล่อกัณภัย M.Div. (Gordon-Conwell Theological Seminary, South Hamilton, Massachusettes, USA), Ph.D. (University of Edinburgh, Scotland) เลขาธิการสมาคมพระคริสตธรรมไทย และอาจารย์พิเศษสถาบันกรุงเทพคริสตศาสนศาสตร์ (BIT)
o ดร. วรรณภา เรืองเจริญสุข Th.M. (Trinity Evangelical Divinity School, Deerfield, Illinois,USA), D.Min. (Columbia International University, Columbia, South Carolina, USA)หัวหน้าฝ่ายวิชาการ พระคริสตธรรมเชียงใหม่ (CTS) และอาจารย์พิเศษ วิทยาลัยพระคริสตธรรมแมคกิลวารี มหาวิทยาลัยพายัพ
o ศาสนาจารย์โรเบิร์ต คอลลินส์ M.Div., Th.M. (Pittsburgh Theological Seminary, Pennsylvania, USA)อาจารย์พิเศษหมวดพันธสัญญาใหม่ วิทยาลัยพระคริสตธรรมแมคกิลวารี มหาวิทยาลัยพายัพ
o อาจารย์ทองหล่อ วงศ์กำชัย วศ.บ. (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย), Dip.Th. (Discipleship Training Center, Singapore)อดีตหัวหน้าฝ่ายแปล สมาคมพระคริสตธรรมไทย และอาจารย์พิเศษโรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์
o อาจารย์ปัญญา โชชัยชาญ ศศ.บ ภาษาอังกฤษ (มหาวิทยาลัยรามคำแหง), M.Div. (สถาบันบัณฑิตคริสตศาสนศาสตร์เมืองไทย)ฝ่ายแปล สมาคมพระคริสตธรรมไทย และอาจารย์พิเศษโรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์
o อาจารย์พัชรินทร์ ชัชมนมาศ M.Div., D.Min. candidate (Bethel Theological Seminary, St. Paul, Minnesota, USA)ผู้บริหารองค์การแคมปัสครูเสดฟอร์ไครสต์ (CCC)
2. แปลจากสำเนาพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูและกรีกที่ได้มาตรฐาน สำเนาพระคัมภีร์ภาษาเดิมที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานในการแปลพระคัมภีร์ คือ UBS Greek New Testament, 4th Edition สำหรับภาษากรีก และ Biblia Hebraica Stuttgartensia (BHS) สำหรับภาษาฮีบรู ทั้งสองเล่มเป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมพระคริสตธรรมเยอรมันซึ่งเป็นสมาชิกของสหสมาคมพระคริสตธรรมสากล (United Bible Societies หรือ UBS) เช่นเดียวกับสมาคมพระคริสตธรรมไทย พระคัมภีร์ไทยจึงใช้พระคัมภีร์ภาษาฮีบรูและกรีกทั้งสองฉบับดังกล่าวเป็นต้นฉบับในการแปล ดังนั้น พระคัมภีร์ไทยของสมาคมฯ จึงมาจากพระคัมภีร์ในภาษาเดิมอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
3. มีระบบขั้นตอนการแปลที่มีมาตรฐานสูง นอกเหนือจากการแปลจากภาษาฮีบรูและกรีกโดยผู้เชี่ยวชาญ และการใช้สำเนาพระคัมภีร์ภาษากรีกและฮีบรูที่ได้มาตรฐานแล้ว สมาคมพระคริสตธรรมไทยทำงานภายใต้มาตรฐานการแปลพระคัมภีร์ของสหสมาคมพระคริสตธรรมสากล (UBS) ซึ่งเป็นองค์กรการแปลพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสมาชิกมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก และสมาคมพระคริสตธรรมไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกนั้น ด้วยการแปลภายใต้มาตรฐานของสหสมาคมฯ ยังผลให้ พระคริสตธรรมคัมภีร์ของสมาคมพระคริสตธรรมไทยเป็นหนังสือภาษาไทยที่ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุดก็ว่าได้ กล่าวคือ มีระบบและขั้นตอนการทำงานดังนี้ เมื่อผู้แก้ไขคำแปล (Revisers) แต่ละท่านได้แก้ไขคำแปลพระธรรมที่ตนรับผิดชอบเสร็จ ก็จะให้ผู้แปลอีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้แก้ไขคำแปลพระธรรมเล่มอื่น ทำหน้าที่ตรวจไขว้ (Cross-Check) แล้วส่งข้อเสนอแนะให้ผู้รับผิดชอบแก้ไขพระธรรมเล่มนั้นๆ พิจารณา จากนั้นจึงจัดส่งให้กรรมการตรวจสอบ ทำการตรวจอีกครั้งหนึ่งทั้งในด้านอรรถาธิบาย ภาษาที่สื่อชัดเจน และการอ่านรู้เรื่อง เมื่อกรรมการตรวจสอบได้ตรวจสอบเสร็จก็จะส่งกลับมายังผู้รับผิดชอบการแก้ไขคำแปลเพื่อพิจารณา ต่อมาจึงได้ส่งให้หรือพิจารณาร่วมกับที่ปรึกษาการแปล (Translation Consultant) ของสหสมาคมพระคริสตธรรมสากล (UBS) ซึ่งมีความรู้ทั้งด้านศาสนศาสตร์และภาษาศาสตร์ และต้องมีวุฒิปริญญาเอกสาขาใดสาขาหนึ่งในสองสาขานี้ เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนนี้จึงส่งให้นักลีลาภาษา (Stylist) ขัดเกลาภาษาไทยแล้วส่งกลับมาให้ผู้แก้ไขคำแปลพิจารณาเป็นขั้นตอนสุดท้าย ทั้งนี้คณะผู้แปลมีที่ปรึกษา (Advisors) เป็นผู้นำคริสตจักรไทยจำนวน 25 ท่านมีหน้าที่ให้คำเสนอแนะในด้านการแปลที่อาจมีผลกระทบในวงกว้าง เช่น ในเรื่องพระนามเฉพาะของพระเจ้า ดังนั้น สมาคมฯ จึงเชื่อแน่ว่าคำแปลทุกคำได้รับการกลั่นกรองอย่างดี ถูกต้อง และเหมาะสม สมฐานะเป็นคำแปลของพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ (The Holy Scripture) บางคนอาจมีคำถามว่า เมื่อพระคัมภีร์ฉบับภาษาฮีบรูหรือกรีกใช้คำเดียวกัน เพราะเหตุใดสมาคมฯ จึงแปลคำเหล่านั้นไม่เหมือนกันในบางแห่ง สมาคมฯ ขออธิบายดังนี้คือ หลักการแปลประการหนึ่งของสมาคมฯ ก็คือการแปลจะต้องมีความสม่ำเสมอ (Consistency) กล่าวคือคำเดียวกันในภาษาเดิม ก็ควรจะแปลเป็นภาษาไทยด้วยคำเดียวกันตราบเท่าที่บริบท (Context) เอื้ออำนวย เพราะฉะนั้นการแปลจึงขึ้นอยู่กับบริบทด้วย ดังจะเห็นได้ว่าคำเดียวกันในภาษากรีก เช่น “พะนือมา” พระคัมภีร์ไทยฉบับ 1971 แปลเป็นหลายคำในบริบทที่ต่างกัน เช่น ลมหายใจ พวกวิญญาณที่ดี พวกวิญญาณชั่ว พระวิญญาณบริสุทธิ์ ลม น้ำใจ ใจ เป็นต้น ซึ่งไม่เป็นการผิดหลักการแปลแต่อย่างใด เพราะตามหลักอรรถศาสตร์หรือศาสตร์ของความหมาย (Semantics) แล้ว คำหนึ่งๆ ในภาษาฮีบรูหรือกรีกมีความหมายครอบคลุมหลายคำแปลด้วยกัน ผู้แปลต้องวิเคราะห์ว่าแท้จริงแล้วคำคำหนึ่งในบริบทนั้นๆ จะมีความหมายว่าอย่างไร สมาคมฯ ขอถือโอกาสนี้รายงานความคืบหน้าของการแก้ไขคำแปล (การยกร่าง) พระคัมภีร์ไทยดังนี้คือ พระธรรมสุภาษิตได้ผ่านขบวนการแปลทุกขั้นตอนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียงพิมพ์และพร้อมจะจำหน่ายจ่ายแจกในปี 2007 นี้ ส่วนพระธรรมสดุดีอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของที่ปรึกษาการแปล ท้ายที่สุดนี้ ขอให้คริสตชนไทยมั่นใจได้ว่าพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทยฉบับมาตรฐานของสมาคมพระคริสตธรรมไทย เป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ได้รับการทรงนำในการแปลจากพระคัมภีร์ในภาษาเดิมอย่างถูกต้อง มีคำแปลที่เหมาะสมสำหรับการอ่านและใคร่ครวญเพื่อความเจริญเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณ ขอให้ทุกสิ่งที่สมาคมพระคริสตธรรมไทยได้กระทำในพระนามของพระองค์เป็นการถวายพระเกียรติและพระสิริแด่พระเจ้าในที่สูงสุด

ไม่มีความคิดเห็น: